วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

21.กล้วยไม้ฟาแลนน๊อตชีปในระบบโรงเรือนปิด(อีแว๊ป)เราสามารถปรับให้ค้าอยู่ในโรงเรือนธรรมดาได้

ขอเกิ่นเรื่องของการอีแว๊ปก่อนส่วนวิธีการปรับอยู่ล่างๆครับ 
โรงเรือนปิดบางที่เลือกช้แสงเทียมจะหลอดไฟ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีหลอดสำหรับเลี้ยงตู้ไม้น้ำ เราเอามาเลี้ยงกล้วยไม้ได้เช่นกัน
.
จุดประสงค์ของการใช้แสงเทียมเพื่อให้ กล้วยไม้ได้รับแสงที่เพียงพอในแต่ละวันนั้นเองครับ ลดปัญหา แสงไม่สม่ำเสมอไปเลย เพราะให้ค่าแสงที่คงที่ตลอดช่วงเวลาที่เราอยากให้เค้าได้รับ
.

สำหรับบางคนที่อยากได้ต้นฟอร์มสวยๆ ไร้แมลงรบกวน และอยากให้สมบูรณ์ฟอร์มดี เทคนิคนี้จึงมีผู้หันมาใช้กันเป็นลำดับ(คือญีปุ่นมาทำที่เชียงใหม่นะ ช่วงหน้าหนาวแดดน้อยเค้าแก้ปัญหาแบบนี้) หลายๆท่านไปเห็นเลยได้มาเล่าสู่กันฟัง ผมฟังเฉยๆเพราะไม่เคยไปเห็น
.

แถมบางคนใช้เครื่องตั้งเวลาเปิดหลอดไฟตั้งเวลารดน้ำด้วยอีกตะหาก ซึ่งทำให้ผลลัพที่ได้ดีมากๆ บางรายใช้เครื่องพ่นหมอกตั้งเวลาเป็นระยะ ให้พ่นหมอกหลายช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อให้มันสมบูรณ์แบบมากขึ้นเหมือนมีความชื้นที่ช่วงเวลาที่เหมาะสม
.

บางคนอาจจะดูว่าไม่จำเป็น แต่บางคนก็มองเห็นประโยชน์ อันนี้แล้วแต่มุมมอง
.

บางคนสงสัยว่าแล้วแบบนี้เราจะใช้กับกล้วยไม้ได้ทุกชนิดไหม ก็เท่าที่ผมรู้เกือบๆทุกๆสายพันธุ์ ขึ้นอยู่กับการออกแบบอีแว๊ปว่าจะทำให้ปรับอุณหภูมิได้หรือไม่ ร้อนหนาวเราหาเครื่องมาทำได้แน่นอนแต่ จะคุ้มหรือไม่ก็ว่ากันไป อยากให้ ร้อนเป็นหน้าแร้งแดดแรงๆก็ทำได้ แม้ข้างนอกจะหนาวมากก็เถอะ หรือจะให้เย็นฉ่ำแต่นอกอีแว๊ปร้อนตับแล๊ปก็ทำได้
.

บางคนสงสัยว่าแล้วดูไม่คุ้มนะ ต้องบอกว่า เดี๋ยวนี้มันไม่จำเป็นต้องทำใหญ่โตครับ แถมมีคนนำเข้าตู้เพาะต้นไม้ในร่มมาขายแล้วครับ มีหลายขนาดด้วยไม่ต้องใช้พื้นที่มากมาย แต่ผมถามเค้าเงียบ เลยเออ งั้นก็ไม่ถาม มาหลังจากที่มีข่าวปลูกกันชาในห้องนั้นแหละครับที่ใช้หลอด led ปลูกกันชาในห้อง
.

ถ้าซื้อแต่หลอดไฟ พัดลมเป่า เอาเครื่องเครื่องพ่นหมอกมาทำเองเลี้ยงเองในห้องในบ้านก็ได้ครับ สำหรับอยากไว้ชมในบ้านโดยสั่งตัดตู้สักใบให้มีช่องระบายอากาศด้านข้างหรือด้านหลังติดพัดลมดูดอากาศด้านหลังสักตัวเพื่อให้อากาศไหลเวียนก็น่าจะดีแล้วละครับผม
.

(ผมก็เคยคิดจะทำนะ แต่กลัวเปลืองค่าไฟเลยไม่เอาดีกว่า ) ใครอยากทำสำเร็จรูปพร้อมขายก็ดีนะ มาเป็นตู้เลย555 ขายพร้อมตู้และของตบแต่ง
.


ที่เอ่ยถึง ฟาแลน เพราะการเพาะขยายหรือการเลี้ยงดู มักจะอยู่ในสภาพอากาศที่ปิด และมักอยู่ในภาพที่ค่อนข้างเย็นถึงเย็นมาก(ในห้องแอร์) ที่นี้มาเจอสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูงหน่อยชื้น น้อยหน่อย จะเกิดการเน่าเละได้ง่ายๆ หรือปรายใบดำเหี่ยวได้ง่ายๆเช่นกัน หรือใบค่อยๆบางลงๆ รากยึดยาวพยายามออกนอกกระถางทั้งๆที่ต้นยังไม่โต
.

ทีนี้มาพูดถึงว่าทำไมเราต้องเอาออกมาภายนอกด้วยในเมื่อเลี้ยงในห้องรับแขกหรือในห้องอื่นๆที่มีสภาพไม่ร้อน แสงน้อย(สภาพหลอดฟลูออเรสเซนต์)
.

คือมันเป็นแบบนี้นะครับ หลักจากที่ดอกหมดและกำลังจะต่อก้าน(ขึ้นดอกใหม่บนก้านเดิม)ถ้าเลี้ยงในห้องเหมือนเดิมดอกไม่ออกเลยหรือน้อยมากที่จะออก ก้านดอกจะฝ่อไปเองโดยอัตโนมัตครับ
.


ถ้าอยากเห็นเค้าออกดอกอีกให้เอาออกมาภายนอกเพื่อให้ ฟาแลนได้รับแสงที่มากขึ้นให้อยู่อากาศที่ถ่ายเทมากขึ้น แต่ต้องอยู่ในที่ๆอุณหภูมิไม่สูงเกิน 27 องค์ศา ถ้ามากกว่านี้มีปัญหาครับ
.

แต่ก็ไม่เสมอไป คือเอาออกมาอยู่ในโรงเรือนพลางแสง 80 % หรือ 85 % ครับ พลางแสงอย่าน้อยกว่านี้ใบอาจจะใหม้เอาได้ สภาพโรงเรือนก็เหมือนๆทั่วๆไปคือด้านล่างต้องชื้นแต่ไม่อบลมต้องผ่าน ถ้าลมไม่ผ่านต้องเปิดพัดลม ถ้าไม่มีใช้พัดลม อบปุ๊บรามา แต่ให้ลมพัดเฉพาะโดนต้นเพื่อป้องกันด้านล่างไม่ให้เสียความชื้นมากเกิน
.

ที่ต้องทำแบบนี้เพื่ออะไรหรือครับ เพื่อทีจะให้ออกก้านดอกใหม่ให้ต้นเจริญเติบโตแข็งแรง และปรับสภาพให้เค้าเข้ากับสภาพอากาศบ้านเราได้นั้นเอง
.

ถ้าไม่ทำแบบนี้ได้ไหมได้ครับ ถ้าเลี้ยงในห้องที่แถวๆบริเวณหน้าต่างมีแสงส่อง ถึง แต่ๆต้องพ่นยากันเชื้อรามากหน่อย เพราะอากาศไม่ถ่ายเท ต้นโตช้าออกดอกยากขึ้นๆไปตามลำดับ ใบเขียวเข้มมากๆจนถึงมากจนดูไม่สวย(เขียวๆดำๆ)
.


ฉะนั้นจึงควรย้ายช่วงเย็นๆถึงค่ำๆเพราะต้องให้เค้าค่อยปรับสภาพจะปรับสภาพได้ง่ายๆ ไม่ค่อยเกิดปัญหากับใบรำด้นและดอก ที่ต้องทำแบบนี้เพื่อให้เค้าทนอุณหภูมิได้สูงขึ้นและปรับตัวเข้ากับทุกสภาพอากาศอย่างช้าๆอยู่ในที่ร่มยังไม่ควรโดนแดดอ่อนในวันแรก ต้องค่อยปรับให้เค้าเจอแดดอ่อนช่วงเช้า ต้นฟาแลนจึงปรับตัวได้ทัน (หรือพลางแสงไว้ 80%เพื่อป้องกันไม่ให้เจอแดดแรงๆในยามเที่ยงหรือบ่ายๆ) อ่อถ้าลมไม่พัดเลยเปิดพัดลมเพื่อให้อากาศระบายได้ดีนะไม่งั้นรากินเช่นกันครับ
.

และยากันเชื้อรา เราควรใช้ด้วยครับ เพราะฟาแลนรากชอบความชื้นมากกว่าหวายนิด1 แต่อากาศต้องระบายได้ดีพอสมควร กระถางฟาแลนจึงต่างกว่ากระถางกล้วยไม้ขนิดอื่นๆคือ รุไม่พรุนมากเพราะรากใช้อากาศในการหายใจน้อยกว่ากล้วยไม้ชนิดอื่นๆแต่ชอบความชื้นมากกว่าชนิดอื่นๆ เลยที่จะมีโอกาศเชื้อราจะเกิดที่เครื่องปลูกหรือรากได้ง่ายๆ
.

อยู่ในฟาร์มเค้าใช้ยากันเชื้อราอยู่แล้วครับ แต่เราเอาเค้ามาอยู่บ้านอย่าให้ขาดยากันราเชียวละครับ ที่นี้เราก็เลือกยากันเชื้อราที่เราหาได้ในแต่ละพื้นที่ครับและต้องถามก่อนทุกครั้งอ่านฉลากก่อนให้เข้าใจและใช้ในปริมาณน้อยๆ หรือครึ่ง 1 ของฉลากที่บอกก่อนเพื่อให้ต้นกล้วยไม้ของเราปรับสภาพหรือให้เค้ารู้จักยาที่เราใช้ก่อนครับ เพราะในฟาร์มอาจจะใช้ยาที่ไม่เหมือนเรา มันมีผลเหมือนกันครับ ตรงนี้ ยาปุ๋ย ถ้าใช้ต่างชนิดต่างยี้ห้อ กล้วยไม้จะค่อนข้างอ่อนไหวและจะมีปัญหาตามมาได้ครับ (คือแบบตายแบบไม่ทราบสาเหต)
.



มีคนเคยสงสัยเป็นข้อๆครับเลยมาขอต่อในบทความนี้ครับ ว่า

1 ไม้ที่โตมาจากสภาพอากาศเปิดจะเอาเข้าอีแว๊ปเพื่อจุดประสงค์อะไร
2 ถ้าเข้าอีแว๊ปแล้วไม้ไม่ทนต่อสภาพออกการเปิดอีกต่อไปหรือไม่
3 ถ้าเข้าอีแว๊ปแล้วสวยขึ้นเฉพาะที่อยู่ในโรงเรือนปิด พอต้องการนำจำหน่ายสภาพมันจะไม่คงทนเหมือนอยู่ในอีแว๊ปหรือไม่
4ไม้ที่โตมากับโรงเรือนปิดแบบอีแว๊ป(ปรับสภาพอุณหภูมิ จะทนต่อสภาพอากาศเปิด(โรงเรือนเปิด)ได้หรือไม่
.

เอาเป็นว่าประเด็นหลักๆเป็นแบบนี้นะขอรับ.
.


ตอบข้อ 1 เพื่อทำฟอร์มส่งประกวด ต้น ดอก ใบ หรือเพื่อออกดอกนอกฤดูกาล.
.


ตอบข้อ 2 กล้วยไม้จะทนทานเหมือนเช่นสมัยก่อนที่ จะเข้าอีแว๊ป แต่ฟอร์ม
การออกดอกครั้งต่อไปจะไม่ดกหรือขึ้นหลายช่
.

ตอบข้อ 3 ถ้าเอามาปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศเปิดแบบช้าๆค่อยเป็นค่อยไป สามารถอยู่ทนได้เพราะกล้วยไม้ปรับตัวเก่งมากๆอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ก็ให้เลือกต้นที่แข็งแรงมาจำหน่ายเพราะบางต้นมันก็มีตำนิไปตามสภาพ(ใบเสียหรือบางลงดอกมีตำหนิหรือไม่สมบูรณ์บ้าง)
.

ตอบข้อ 4 คล้ายๆข้อ3 บางฟาร์มจะบอกเลยว่าเป็นไม้จากอีแว๊ป เพราะจะให้เข้าใจกันว่า เอาไปแล้วสภาพมันจะไม่สมบูรณ์เหมือนตอนที่เลี้ยงในฟาร์มนะ มีตำนิไปบ้าง จากการปรับสภาพ
.

แต่ๆ หลาย ฟาร์มก็มักง่าย อยากขายจนไม่ได้บอกคนเลี้ยง ไม่ปรับสภาพก่อนส่ง ออกจากฟาร์มรีบถ่ายรูป แล้วมีคนสั่งแพ๊คเลยไม่มีการเอามาพักภายนอกระบบอีแว๊ปให้เข้ากับอากาศสภาพอากาศเปิด
.

คนเลี้ยงเห็นรูปต้นสมบูรณ์ใบอวบ ดอกใหญ่หรือดอก ก้านช่อยาว รีบซื้อเพราะกลัวหมดกลัวไม่ได้ แต่พอเอามา กลับใบค่อยๆบางลงๆ ปุ๋ยก็ใส่ ยาก็ให้ แต่ก็ยังจะเกิดโรคได้ง่ายๆ บางต้นตายแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
เพราะอะไรหรือ เพราะมันทนไม่ไหวกับสภาพอากาศเปิดที่ไม่ได้ปล่อย ให้ปรับสภาพอากาศ คือ บางทีเปิดจากกล่องมาก็เน่าคากล่องเลย เพราะมันอบในกล่องแถมบ้านเราอากาศร้อน ไปรษณีย์ไทยเราก็เอาแน่เอานอนไม่ได้บทจะช้าก็ช้าบทจะเร็วก็ส่งเร็ว สภาพกล่องต้องนั่งลุ้นเอาว่ามาสภาพดีหรือสภาพ...ทนดูได้ .
.

ถ้ากล้วยไม้มาไม่เป็นไร แต่พอเลี้ยงไปสักพักก็อย่างที่บอกครับ สภาพมันจะโทรมไวมากๆ แถมอ่อนแอต่อสภาพอากาศเปิดมากๆ ร้อนหน่อยรีบเหี่ยวดอกร่วงไว บางทีมีใบใหม้ให้ดูอีกหรือใบบางกรอบ(แห้งเขียว)เพราะขาดน้ำ หรือราขึ้นง่ายมากๆ .
.

การปรับสภาพฟาแลนจากไม้อีแว๊ปมาสู่โรงเรือนธรรมดา ก็ไม่ได้ยุ่งยาก ควรย้ายตอนกลางคืนอุณภูมิจะได้จากเย็นเป็นร้อนใจากกลางคืนเป็นกลางวัน แต่ควรให้อยู่ในที่ร่มมีแสงไม่ควรโดนแดดเลยแม้แต่นิดเดียว

.
 น้ำก็ไม่ควรให้ขาดควรรดให้ชุ่มในตอนเช้า และไม่ควรให้โดนลมแรง เพียงแค่ 2 วันเค้าก็พร้อมออกเลี้ยงในโรงเรือนปรกติที่มีการพลางแสงให้พอดีกับเค้าเค้าก็สามารถอยู่ได้ออกดอกได้ ใบอาจเหี่ยวย่นบ้างนิดหน่อยถ้าเค้าปรับสภาพได้นานไปอาการเหี่ยวย่นจะหายไปเอง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น