วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559
33 ไม้ขวดมีดีอย่างไร
มาพูดถึงไม้ขวดกันบ้างดีกว่าว่าหลายๆคนชอบซื้อมามันมีดีอะไร
คงจะเคยเห็นไม้เพาะใส่ขวดบ้างขายกันเป็นขวดๆมาเลย แต่เราๆท่านๆอาจจะงงว่าบางคนชอบซื้อแต่ไม่ยักจะเอามาขายแหะ บางคนก็ซื้อมาเพาะเก็บไว้บ้างขายต่อคนอื่นหลังจากลงกระถางไม้นิ้วบ้าง
.
สำหรับคนที่ไม่เคยศึกษามาก่อนก็อาจจะลำบากนิด1ถ้าเอามาแบบไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เพราะค่อนข้างยุงยากพอสมควรเลย ตั้งแต่ซื้อมา มาหาวิธีทุบขวดแบบปลอดภัย เอาไม้ออกจากขวด ล้าง แล้วพึ่งในที่ร่มมากหน่อย จนถึงกระทั่งลงกระถางใบจิ๋ว
.
ขอพูดถึงข้อดดีของไม้ขวดก่อน คือ เราได้เลือกต้นที่สวยๆถูกๆใจๆแยกไว้เป็นพิเศษได้ครับ แบบว่า เอาแว่นขยายส่องดู กล้่องส่องพระส่องดูกันเลยทีเดียว
.
ว่า มีแววสวยแค่ไหน โดยเฉพาะช้าง ที่มีดอกสีเข้มๆหรือสดๆหรือสีแสบตา มักจะมีสีออกแพมๆตั้งแต่เริ่มออกเอาออกมาพึ่งรดน้ำวันละครั้งแล้วละครับ
.
ยิ่งเวลาผ่านไป(เอาแค่อาทิตย์เดียวที่ออกจากขวด) สีสรรจะฟ้องชัดแจนว่าต้นไหนสีที่ใบต้นและรากออกมาให้เห็นขอบๆปลายรากหรือโคนราก
.
บางต้นจะโตใหญ่เร็วกว่าเพื่อนและสีมากกว่าเพื่อน และทรงดีกว่าเพื่อน ถ้าชอบก็เก็บไว้ หรือเตี้ยป้อมอวบแต่สวย ถ้าชอบก็เก็บไว้ หรือ กลายพันธุ์ มีใบด่างให้ดูด้วย หรือ ต้นสีอ่อน(ด่างจนไม่เหลือสีเดิม)เลยถ้าชอบก็เก็บไว้ครับ
หรือมีแปลกๆ ขึ้นแบบแฝด หรือขึ้นแบบใบพิเศษปลายใบมีหยักๆเหมือนเฟืองถ้าชอบก็เก็บไว้ครับ
.
เพราะบางทีมันก็กลายพันธุ์ได้ครับ ถึงมาจากหน่อเดียวกันฝักเดียวกันเนื้อเยื้อแบ่งตัวจากที่เดียวกันขวดเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกันจนบางทีแทบจะไม่อยากจะเชื่อจากสายตาว่ามาจากหน่อเดียวกัน (บางคนก็ชอบของแปลกและมีคนมาหาซื้ออยู่เหมือนกันครับเพราะบางคนเค้าชอบเล่นไม้กลายพันธุ์เพราะมันแปลกตาดี)
.
แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ เพราะที่แคะแกนและตายหรืออ่อนแอไปก็มี หรือไม่กลายพันธุ์เลยสักต้นก็มี เหมือนกันทุกต้นโตเท่ากันทุกต้นก็มีครับ
.
ปล.ไว้โพสหน้าจะบอกคร่าวๆครับว่าทำอย่างไรกับไม้ขวด
วิธีเอาไม้ขวดออกจากขวด
ก็มีหลายๆวิธีครับ เอาลวดทำปลายโค้งเล็กๆเพื่อให้เกี่ยวกับโคนต้นออกมาทางปากขวดทีละต้นๆ
หรือทุบขวด แต่การทุบขวดที่ดี เอาสะก๊อดเทปแปะขวด หนังสือพิมห่อหลายๆชั้นใส่ถุงก๊อปแก๊สอีกสองชั้น แล้วทุบก้นขวด ก็จะลดเศษแก้วไม่ให้ไปบาดกล้วยไม้หรือมือของผู้ทุบขวดครับ (แล้วก็ค่อยเปิดถุงเปิดห่อเอาเศษแก้วทิ้งอย่างระมัดระวังห่อหนังสือพมพ์ทิ้งก็ดีเพราะจะได้ไม่ไปบาดอะไรหรือใครต่ออีกเมื่อหลังจากลงถังขยะไปแล้ว)
หรือใช้การตัดขวดด้วยจานเจียขนาดเล็ก แต่วิธีนี้ต้องค่อยๆทำแล้วเอาน้ำฉีด ใบตัดต้องไว้สำหรับตัดขวดโดยเฉพาะครับ
.
เอาคร่าวๆแค่นี้ คงพอครับ แต่พอเอาออกจากขวดก็ล้างน้ำก่อนค่อยทำช้าๆเพราะต้องดูเศษแก้วไม่ให้หลงมาบาดมือคนหรือกล้วยไม้ ล้างในกาละมังดีสุดเพราะกว้างดี แล้วเตรียมตะกล้าไว้ผี่งกล้วยไม้ วางเรียงนอน หรือจะวางเรียงตั้งติดๆต่อๆกันไปได้ครับ
.
เอาไว้ในที่ร่มมากหน่อยเพราะไม้ยังอ่อนต้องการแสงน้อยมาก จึงไม่ควรเอาไว้ในที่ๆมีแสงเท่าไม้โต หรือหาอะไรบังเพื่อให้ได้รับแสงน้อยกว่าไม้โตครับ ประมาณ 2 เท่าบังแสง2เท่าของต้นที่โตแล้วนั้นเอง
.
การดูแลก็รดน้ำวันละครั้ง อยู่ในที่อากาศถ่ายเถได้ดี มีลมพัดบ่อยๆไม่อับชื้นและแยกต้นที่จะตายออกไป ครับ เลี้ยงไว้แบบนี้ 1 เดือนค่อยมาคัดต้นลงกระถางนิ้ว
.
ถึงจะเริ่มให้ปุ๋ยอ่อนๆถึงอ่อนมากๆ (ตรงนี้ต้องแล้วแต่สายพันธุ์ จะเศษ1ต่อ5 แล้วค่อยๆเพิ่มทุกสองอาทิตย์หรือจะเพิ่มไปตามตราส่วนที่ของแต่ละสายพันธุ์นั้นๆ )
.
ส่วนแสงนั้นค่อยๆลดการพลางแสงลงหลังจากที่เข้าสู่เดือนที่ 3 จากสองเท่าเป็น 1 เท่า(แล้วแต่สายพันธุ์ว่าใช้เวลากี่เดือนก็ว่าไปเพราะต้องไปค้นเอาว่าแต่ละสายพันธุ์ใช้ระยะเวลาเท่าไร )
นี้คือแบบคร่าวๆครับที่บอกต้องลองไปศึกกันดูครับ ถ้าสนใจก็ลองไปหามาแต่ว่า ต้องทำใจนิด1 เพราะต้องใช้เวลามากหน่อยในการเอาใจใส่เค้านะครับ
ดูต้น ทีละต้น ขวด 1 ก็ประมาณ 40 ต้น คัด รดน้ำ สลับเรียงบ้าง หรือเริ่มแยกๆต้นที่ชอบออกมาบ้าง เป็นต้น
ปล.อย่าผิดเรื่องปุ่ยและยากันเชื้อราเด็ดขาดเน้อ เพราะต้นอ่อนไวต่อยาและปุ๋ยมากๆ ไม่งั้น ขึ้นสรรค์ยกเซต ครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น