วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

40 เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซีส Bacillus Thuringiensis (BT) กำจัดหนอน

 ชื้อบาซิลลัส ทูริงเยนซีส Bacillus Thuringiensis (BT) บี ที

 เป็นเชื้อ แบคทีเรีย ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วโลก ถูกค้นพบครั้งแรกใน ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1901 ในรูปสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย

 Bacillus thuringiensis ที่พบตามธรรมชาติในดิน และ ได้พบว่าหนอนกินใบพืชบางชนิด (ตัวอ่อนของผีเสื้อ กลางวันและผีเสื้อกลางคืน) ตายเมื่อกินใบพืชหรือส่วน อื่นๆของพืช(ที่ถูกฉีดพ่นด้วยบีที)ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ทั้งในน้ำ ดิน บนเศษพืช หรือบนต้นไม้

เชื้อแบคทีเรียบีทีที่มีอยู่เป็นพันๆ สายพันธุ์ มีพียงสองหรือสามสายพันธุ์เท่านั้นที่ได้ถูกนำมาผลิตเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัด แมลง หรือจุลินทรีย์กำจัดแมลง ผลิตภัณฑ์ทางการค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยผลึกโปรตีน และสปอร์ของเชื้อบีทีที่ มีชีวิต โดยใช้ชื่อการค้าต่างๆมากมาย ซึ่งมีบีทีอยู่สองสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในการควบคุม หนอนศัตรูกะหล่ำปลี และหนอนศัตรูผักชนิดอื่น ๆ


 เชื้อ บี ที จัดเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้กำจัดแมลงศัตรูพืช และศัตรูมนุษย์ได้มากมายหลายชนิด เนื่องจากมีความเฉพาะเจาะจงสูง ในการทำลายเฉพาะแมลงเป้าหมายเท่านั้น

เชื้อแบคทีเรียบีทีที่มีอยู่เป็นพันๆ สายพันธุ์ มีพียงสองหรือสามสายพันธุ์เท่านั้นที่ได้ถูกนำมาผลิตเป็นสารชีวภัณฑ์กำจัด แมลง หรือจุลินทรีย์กำจัดแมลง

ผลิตภัณฑ์ทางการค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยผลึกโปรตีน และสปอร์ของเชื้อบีทีที่ มีชีวิต โดยใช้ชื่อการค้าต่างๆมากมาย ซึ่งมีบีทีอยู่สองสายพันธุ์ที่นิยมใช้ในการควบคุม หนอนศัตรูกะหล่ำปลี และหนอนศัตรูผักชนิดอื่น ๆ
---------------------------------------

เชื้อบีที (Bt) ทำงานอย่างไร?

สารเคมีฆ่าแมลงส่วนใหญ่ มักจะถูกตัวแมลงตาย แต่สำหรับเชื้อ บี ที นั้น แมลงจะต้องกินเชื้อ บี ที เข้าไป จึงจะออกฤทธิ์ทำลายแมลงได้ โดยทั่วไป เชื้อ บี ที จะทำลายเฉพาะตัวอ่อนของแมลงเท่านั้น เช่น ตัวหนอน หรือ ลูกน้ำยุง จะไม่ทำลายศัตรูพืชระยะที่เป็นไข่ หรือตัวเต็มวัย ยกเว้น บี ที บางสายพันธุ์ ที่สามารถทำลายได้ทั้ง ตัวอ่อน และตัวเต็มวัยของด้วงปีกแข้งบางชนิด

 เมื่อแมลงกินสารพิษและสปอร์เข้าไปในกระเพาะ น้ำย่อยในกระเพาะมีคุณสมบัติเป็นด่างค่อนข้างสูง จะย่อยสารพิษ ซึ่งอยู่ในรูป protoxin ให้เป็น active toxin ( สารพิษแท้จริง ) ซึ่งจะเข้าทำลายเซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหาร และระบบทางเดินอาหาร ถูกทำลาย ทำให้แมลง ไม่สามารถกินอาหารได้ เคลื่อนไหวช้าลง ในที่สุด แมลงจะตาย

ขณะเดียวกัน เมื่อผนังของกระเพาะอาหารถูกทำลาย ทำให้ระดับความเป็นกรด-ด่าง ภายในลำตัวของแมลงเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้แมลงเป็นอัมพาต ขากรรไกรค้าง ไม่สามารถกินอาหารได้ สปอร์ของ บี ที สามารถไหลผ่านจากรูแผลบนผนังกระเพาะ เข้าสู่ระบบเลือดของแมลง จะขยายทวีจำนวนมากขึ้น ทำให้โลหิตเป็นพิษ แมลงจะตายในเวลาต่อมา

โดยทั่วๆไป เชื้อ บี ที จะทำลายแมลง โดยใช้ระยะเวลา 2 – 3 วันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขนาดของแมลง และปริมารเชื้อที่กินเข้าไปด้วย 


ก่อนอื่นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่าเชื้อบีทีไม่ได้ออกฤทธิ์เหมือน สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป เชื้อบีทีสามารถควบคุม แมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้มี ฤทธิ์แบบถูกตัวตาย หรือ “น๊อกดาว”

 คือศัตรูพืช ไม่ได้ถูกฆ่าตายในทันทีที่ฉีดพ่น แมลงจะต้องกินส่วนของพืชที่เคลือบด้วย เชื้อบีทีในปริมาณที่มากพอที่จะถูกฆ่าได้ เมื่อบีทีจำนวนมากพอถูกกิน พิษในผลึกโปรตีนจะไปทำให้ส่วนของ ปากและช่องท้องของหนอนเป็นอัมพาต

แมลงศัตรู พืชเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง และหยุดกินอาหารในเวลาไม่กี่ นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้รับเชื้อเข้าไปมากพอ พิษ ดังกล่าวจะทำลายผนังช่องท้องของแมลงภายในหนึ่งชั่วโมงทำให้สปอร์ของเชื้อบี ทีและชิ้นส่วนในช่องท้องแมลงหลุดลอด เข้าไปในส่วนที่เป็นช่องว่างของร่างกายแมลงทำให้แมลงตาย

เนื่องจากขาดอาหาร และอาการเลือดเป็นพิษ และ/หรือ osmotic shock ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง หนอนบางตัวที่ตายเนื่องจากเชื้อบีทีอาจมีสีซีด หรือเปลี่ยนเป็นสีดำ หนอนที่ตายแล้วมักจะเหี่ยวย่น และร่วงหล่นลงจากต้นพืชไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย

เหมาะที่จะใช้ ในแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ และ ใช้ทดแทนสารเคมีที่ราชการประกาศห้ามใช้ เช่น โคโนโครโตฟอส เมวินฟอสและเอ็นโดซัลแฟน เพราะปลอดภัยต่อแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงห้ำ แมลงเบียน ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และปลาตลอดจนไม่มีพิษตกค้างในพืชและ สิ่งแวดล้อมปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค

--------------------------------------

คุณสมบัติ

- ป้องกันและกำจัดหนอนของแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนใยผัก
- หนอนกระทู้หอม(หนอนหนังเหนียว) ฯลฯ
- หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนกระทู้ผัก
- หนอมกินใบ หนอนแปะใบองุ่น
- หนอนคืบต่าง ๆ หนอนกอข้าว
- หนอนบุ้งเล็ก กินใบมะพร้าวและปาล์มน้ำมัน
- หนอนเจาะผลมะเขือเทศ
- หนอนกินใบสัก
- หนอนหญ้าแมวในปาล์มน้ำมัน
- หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอมในผักต่าง ๆ
- หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน
- หนอนเจาะขั้วลิ้นจี่
- หนอนแปะใบส้ม และ
- หนอนม้วนใบข้าว
----------------------------------------------------------------
หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บี ที

เชื้อ บี ที เป็นสิ่งมีชีวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต .(UV) จากแสงแดด ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อนๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อ บีทีชีวภาพ บนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน แมลงศัตรูพืชบางชนิด เช่น หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ มักอาศัยกัดกิเน อยู่ด้านล่างของใบ ดังนั้นการพ่นให้ครอบคุลมบริเวณส่วนบนและล่างของใบพืชด้วยจะจะสามารถควบคุม หนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อ บี ที ให้ละอองเล็กที่สุดจะช่วยใหละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี หรือผสมสารจับใบ

ควรฉีดพ่นเชื้อ บี ที เมื่อสำรวจพบหนอนตัวเล็ก จะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบหนอนตัวใหญ่ ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารฯ บางชนิดอาจะทำให้เชื้อ บีทีชีวภาพ เสื่อมประสิทธิภาพลงได้

เนื่องจากเชื้อบีทีชีวภาพออกฤทธิ์ช้า ใช้เวลา 2 - 3 วัน หนอนจึงจะตาย ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้หนอนตายเร็วขึ้น การใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำนจะส่งผลให้แมลงไม่ตายและทำความเสียหายแก่ผลผลิต จึงใช้เชื้อ บีทีตามอัตราที่แนะนำ เมื่อพบการระบาดของหนอนรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วัน จะช่วยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นเพียงครั้งเดียว

 อัตราการใช้ เชื้อ บีที 50-80 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ 24-36 ชั่วโมงจึงนำมากรองแล้วฉีดพ่น

   ข้อควรระวัง
- ไม่ควรใช้ เชื้อรา บาซิลลัส ทูริงเยนซิส ร่วมกับสารปราบศัตรูพืช
- หลังฉีดควรงดใช้สารปราบศัตรูพืชทุกชนิด
- ควรฉีดช่วงเย็นป้องกันเชื้อถูกทำลาย

-----------------------------------------------------------
การขยายเชื้อบาซิลลัส BT




การหมักเชื้อด้วยน้ำมะพร้าว เพื่อการฉีดพ่น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น